Unique Selling Point ของเราเวิร์กแค่ไหนกัน?
ในยุคที่ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันสูงขึ้น USP หรือ Unique Selling Point หรือความโดนเด่นของสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง ถือเป็นเรื่องสำคัญ
เราจะเริ่มมองเห็นร้านเปิดใหม่ที่คาแรคเตอร์จัดจ้านแล้วยังสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มได้มากขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าการตอบสนองความต้องการของลูกค้าน้อยมากที่จะเกิดจากความบังเอิญ
3 Step สำคัญ ในการดูว่า USP ของเราเวิร์กแค่ไหน
#Step1
ในการสร้าง USP เราต้องรู้จักลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรา ยิ่งรู้ลึกเท่าไหร่เราจะยิ่งได้ข้อมูลที่ลึกและแม่นยำมากขึ้น
ธุรกิจส่วนใหญ่ที่เริ่มจากความชอบแล้วประสบความสำเร็จ มักเกิดจากการสั่งสมประสบการณ์ของผู้ประกอบการ ยกตัวอย่างร้าน After Yum ที่ Persona ของลูกค้าชัดตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน ทำให้รู้ว่ากลุ่มลูกค้าเป็นใคร ชอบอะไร และต้องตั้งราคาเท่าไหร่
ร้านข้าวโซอิ ที่เปิดร้านข้าวซอยราคาอาหารญี่ปุ่น ก็เริ่มจากการสำรวจร้านที่ลูกค้าต่อคิวในเชียงใหม่ ก่อนจะพบว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น จึงมองเห็นความต้องการของลูกค้า แล้วกลายมาเป็นข้าวซอยในหน้าตาราเมน ที่ขายในราคาอาหารญี่ปุ่น
#Step2
ดูความได้เปรียบในการแข่งขัน ดูว่า USP ที่เราสร้างมีข้อได้เปรียบอะไรจากร้านคู่แข่งทั้งทางตรง ทางอ้อม และคู่แข่งในอนาคตบ้าง แล้ว USP ที่เรามีแตกต่างจากคู่แข่งจริง ๆ แบบเห็นชัดหรือไม่
หรือมีความคล้ายคลึงกับคู่แข่งในสายตาผู้บริโภครึเปล่า หากคล้ายกันมาก ๆ จะเป็นการยากในการโน้มน้าวให้ลูกค้ามาอุดหนุนเรา
#Step3
ดูแนวโน้มและความต้องการ อาจจดูจากการเติบโตของกลุ่มลูกค้า เช่น กลุ่มลูกค้ามังสวิรัตที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี หรือการที่กลุ่มคนในปัจจุบันทานเจในช่วงเทศกาลกินเจมากขึ้น หรืออาจใช้วิธีเก็บข้อมูลความสนใจของลูกค้าบน Social เป็นต้น
ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin
อ่านต่อบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ปรับธุรกิจให้เข้ากับคนพื้นที่ ด้วยกลยุทธ์ Localization Strategy ที่ร้านเชนใหญ่มักใช้
เช็กลิสต์ว่าที่เจ้าของร้าน มัดรวม เรื่องที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนเปิดร้าน
ตั้งราคาแต่ละเมนูยังไง เริ่มแบบไหนไปต่อได้ง่ายในอนาคต
สร้างแบรนด์แบบงบน้อย ก็ปังได้ สร้างแบรนด์ให้คนรู้จักด้วยงบจำกัดทำยังไง
สร้างแบรนด์แบบงบน้อย ก็ปังได้ สร้างแบรนด์ให้คนรู้จักด้วยงบจำกัดทำยังไง
