อยากเริ่มขายเดลิเวอรี่

อยากเริ่มขายเดลิเวอรี่ เราควรเลือกเมนูแบบไหนมาขายดี ?

 

ไม่ใช่ทุกเมนูในร้านเรานั้นจะเหมาะกับการทำเดลิเวอรี่เสมอไป

ประโยคนี้ฟังดูง่าย แต่เจ้าของร้านจำนวนมากเข้าใจตอนที่…โดนรีวิว 1 ดาวไปแล้ว

บางเมนูขายดีหน้าร้าน แค่ตั้งปุ๊บก็หมด
แต่พอส่งเดลิเวอรี่กลับเจอลูกค้าคอมเมนต์ว่า “เย็นชืด / แฉะ / หก / ไม่เหมือนในรูป”


สุดท้ายคือเสียอารมณ์ เสียชื่อ และเสียลูกค้า

อยากเริ่มขายเดลิเวอรี่ การเลือกหรือคิดเมนูให้เหมาะกับการทำเดลิเวอรี่ โดยพิจารณาจากข้อจำกัดต่างๆ จะช่วยให้ร้านเรามีโอกาสเพิ่มรายได้จากช่องทางนี้มากขึ้นได้เลย

มาดูกันดีกว่าว่าเราควรเลือกเมนูแบบไหนในการทำเดลิเวอรี่

 

เมนูที่มีกำไรเยอะ

ถ้าเราสามารถเลือกขายได้ว่าอยากจะขายเมนูกำไรมากหรือกำไรน้อยคงไม่มีใครเลือกขายเมนูที่ทีกำไรน้อยแน่นอน

แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราไม่รู้ว่าเมนูแต่ละอันของเรามีต้นทุนเท่าไหร่ แล้วลูกค้าดันชอบสั่งเมนูที่กำไรน้อยแทน และถ้าสมมุติร้านเราโดนค่าธรรมเนียม GP อยู่ที่ 40%

เผลอ ๆ จากที่จะได้กำไรจะกลายเป็นขาดทุนแทน นั่นหมายถึงว่าเราจำเป็นที่ต้องรู้ต้นทุนทุกเมนูก่อน

 

เมนูที่ร้านเราทำได้ดีกว่าเจ้าอื่นในตลาด

จะมีเหตุผลอะไรที่ลูกค้าจะต้องสั่งอาหารเดลิเวอรี่จากร้านเรา ทั้งที่เมนูของเราก็ไม่ได้แตกต่างจากร้านอื่น หรือไม่ได้อร่อยกว่าร้านอื่นเลย

การเลือกเมนูที่ร้านเราทำได้ดีกว่าร้านอื่นหรือเลือกเมนูที่ร้านอื่นไม่มี จะเป็นตัวช่วยในการสร้างภาพจำในมุมลูกค้าว่าร้านเรามีความพิเศษ เผื่อวันนึงลูกค้าอาจเปลี่ยนจากลูกค้าออนไลน์เป็นลูกค้าหน้าร้านก็ได้ในวันที่คุณรู้สึกอยากมีหน้าร้านจริง ๆ จัง ๆ ขึ้นมา หรือเมื่อคุณเริ่มออกงานออกบูธ เขาก็อยากจะตามมา

 

เมนูที่หน้าตาไม่เปลี่ยนแม้ทิ้งไว้นาน

บางเมนูรสชาติยังดีต่อให้จะทิ้งไม่นานแค่ไหนแต่หน้ากลับเปลี่ยนไปจากตอนทำเสร็จใหม่ ๆ ก็อาจไม่เหมาะกับการขายเดลิเวอรี่ เพราะต้องเข้าใจว่าก่อนที่ลูกค้าจะอร่อยด้วยปาก เค้าต้องอร่อยด้วยตาก่อน

บางครั้งรสชาติอาจดูเปลี่ยนไปในมุมลูกค้าทันที เมื่อเค้าเห็นหน้าตาของอาหาร ทั้งที่รสชาติยังเหมือนเดิม

 

เมนูที่ยังทานอร่อยแม้ทิ้งไว้นานอย่างน้อย 1ชม.

นอกจากในเรื่องหน้าตาอาหารที่ต้องดูดีแล้ว รสชาติก็ยังต้องใกล้เคียงกับตอนทำเสร็จใหม่ ๆ ด้วย ถึงแม้จะทำเสร็จมาแล้วเกิน 1 ชม.

เพราะเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากว่าที่ร้านเราจะทำอาหารเสร็จ กว่าที่คนขับจะมารับและไปส่งถึงบ้านลูกค้า หากคุณภาพรสชาติลดลงอย่างเห็นได้ชัดก็อาจทำให้ลูกค้าคนนั้นไม่กลับมาทานอีกเพราะเข้าใจว่ารสชาติของร้านเราไม่อร่อยก็เป็นได้

 

เมนูที่กระบวนการปรุงไม่ยุ่งยาก

ปกติเวลาลูกค้าสั่งอาหารเดลิเวอรี่เค้ามักจะคาดหวังว่าอาหารจะมาถึงเค้าในระยะเวลาที่ไม่นาน แต่หากเมนูที่เราขายเดลิเวอรี่นั้นมีกระบวนการปรุงที่ยุ่งยาก ต้องใช้เวลานาน หรือมีขั้นตอนที่ซับซ้อนทำให้กว่าจะถึงมือลูกค้าอาจต้องใช้เวลานานกว่าปกติ

ซึ่งแน่นอนว่าย่อมกระทบกับความรู้สึกของลูกค้าเพราะลูกค้าเองเค้าไม่มีทางรู้ว่าเมนูนั้นมีขั้นตอนซับซ้อนแค่ไหน

 

การทำร้านอาหารในโลกของเดลิเวอรี่ ไม่ได้แข่งกันแค่ว่า “ใครทำอร่อยกว่า”
แต่มันแข่งกันที่

– ใครแพ็กได้ดีกว่า
– ใครตั้งเมนูได้ฉลาดกว่า
– ใครคุมต้นทุนได้อยู่
– ใครเข้าใจลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้า

เพราะลูกค้าที่สั่งอาหารจากแอป เขาไม่มีวันรู้ว่าในครัวคุณเหนื่อยแค่ไหน
เขารู้แค่ว่า…อาหารมาถึงแล้วมันโอเคมั้ย

‘ไม่ใช่ทุกเมนูจะขายได้บนเดลิเวอรี่’ และไม่ใช่ทุกรีวิว 1 ดาวจะมีโอกาสได้อธิบาย

เลือกเมนูให้ถูก คิดให้ครบตั้งแต่ตอนแพ็ก
เพราะถ้า “แพ็กดีตั้งแต่ต้น” คุณอาจไม่ต้องเหนื่อยแก้ปลายทาง

 

หวังว่าบทความที่นำมาฝากกันในวันนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการและใครก็ตามที่กำลังวางแผนจะทำเดลิเวอรี่ทุกท่านนะคะ ฝากติดตาม Torpenguin ในทุก ๆ ช่องทางด้วยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ 😊

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin

 

📌อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ