ชนะใจลูกค้าสายขี้เกียจ

ชนะใจลูกค้าสายขี้เกียจ ด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ SLOTH Strategy

 

หลายๆ คนอาจเคยได้ยินกันมาแล้วบ้างในเรื่อง ‘การตลาดขี้เกียจ’ หรือ ‘เศรษฐกิจขี้เกียจ’ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ที่ขับเคลื่อนโดนความต้องการของคนในยุคใหม่ ที่ต้องการความสะดวกสบาย เพื่อมาช่วยลดภาระในการทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ จะได้มีเวลาทำงานที่สำคัญมากขึ้น

ซึ่งมันก็มีบทบาทกับชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการกินอาหาร ที่ต้องการความรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น

โดยมีผลวิจัยกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,200 คน ใน 4 กลุ่มอายุ แบ่งเป็น Gen Z, Gen Y, Gen X และ Baby Boomers พบว่า 10 พฤติกรรมขี้เกียจยอดฮิตของคนไทย ได้แก่

1. ออกกำลังกาย 84%

2. รอคิวซื้อของ 81%
3. ทำความสะอาดบ้าน 77%
4. อ่านหนังสือ 70%
5. ทำอาหาร 69%
6. พูดคุยหรือเจอคนเยอะ ๆ 68%
7. ดูแลผิวพรรณตัวเอง 68%
8. เรียน / ทำงาน 65%
9. ออกไปช้อปปิ้ง 64%
10. การเดินทาง 60%

 

จากการสังเกตค่าเฉลี่ยของคะแนนความขี้เกียจแล้ว ทุกประเภทจะมีค่าเฉลี่ยที่ใกล้เคียงกันค่อนข้างมาก ซึ่งก็มีบางข้อที่ถือว่าเข้าทางกับคนทำร้านอาหารอย่างมากเช่น “การรอคิวซื้อของ” “ทำอาหาร” “ออกไปช้อปปิ้ง

ที่การทำฟู้ดเดลิเวอรี่ก็ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี เนื่องด้วยไลฟ์สไตล์ของหลายๆ คนต้องการความรวดเร็ว และต้องมีการบริหารเวลาให้คุ้มค่าที่สุด การมีคนไปยืนต่อคิวรอซื้อของให้ ในขณะที่ยังสามารถนั่งทำงาน หรือทำธุระส่วนตัวอื่นๆ ได้อย่างอิสระ จึงทำให้การทำเดลิเวอรี่เข้าทางคนทำร้านอาหารมากๆ

แต่ใช่ว่าเราจะสามารถพิชิตใจลูกค้าที่ขี้เกียจได้แบบง่ายๆ นะ เพราะบางอย่างมันก็ต้องมีกลยุทธ์ของมันด้วย ซึ่งกลยุทธ์นั้นมีชื่อว่า SLOTH Strategy ที่มาจากข้อมูลการวิจัยของ CMMU ที่แนะนำให้ภาคธุรกิจนำมาปรับใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มตลาดคนขี้เกียจ ประกอบไปด้วย

S – Speed ต้องมีความรวดเร็ว เพื่อให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกเสียเวลา

L – Lean ต้องกระชับ ตัด ท่อน เพื่อง่ายต่อการใช้งาน
O – EnjOy ต้องทำให้ผู้บริโภครู้สึกสนุก เกิดแรงจูงใจในการใช้สินค้าและบริการ
T – ConvenienT ความสะดวกสบาย ที่ทำให้ชีวิตนั้นง่ายมากขึ้น
H – Happy ความสุข เมื่อความต้องการได้ถูกเติมเต็ม และ ปัญหาถูกแก้ไขด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด

หรือสรุปสั้นๆ ว่า “เร็ว กระชับ สนุก สะดวก แฮปปี้” ความสุขของลูกค้า ก็คือ ความสุขของเรา

โดยร้านอาหารอย่างเราก็สามารถปรับเมนูที่มีในร้านของเรามาทำแบบ Ready to Eat มากยิ่งขึ้น เพื่อตอบโจทย์เอาใจตลาดคนขี้เกียจที่นับวันก็มีแต่จะเพิ่มขึ้น และเผื่ออาจได้ช่องทางการขายและกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นด้วย

ยก Case study มาเล่าให้ฟังเป็นไอเดีย คุณจำตอนที่ ข้าวปลาแกะ บูมสุด ๆ ได้มั้ยครับ นั่นแหละครับ จากข้าวหน้าปลาทอดธรรมดา แค่จัดเสิร์ฟแบบแกะแล้ว แก้ Pain Point ที่หลายๆ คนอาจจะมองข้ามไปนั่นคือ การแกะปลา แถมเพิ่มราคาก็ไม่มีใครว่า ทุกคนยอมซื้อเพราะขี้เกียจแกะปลา

นี่เลย ถ้าอยาก ชนะใจลูกค้าสายขี้เกียจ คุณแค่ต้องเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าแล้วเอาโปรดักซ์ตัวเองเข้าไปแก้ปัญหา ก็สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นได้แล้ว

 

หวังว่ากลยุทธ์ที่นำมาฝากวันนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกคนนะครับ

 

 

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร

 

👉🏻 อ่านจบแล้ว อ่านอะไรต่อดี?