เคล็ดลับการเลือกใช้แป้งสาลีให้เหมาะกับประเภทของขนม

ทำความรู้จักกับ แป้งสาลี เลือกใช้แป้งผิด ชีวิตเปลี่ยน วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับการเลือกใช้แป้งสาลีให้เหมาะกับประเภทของขนมกัน

เคล็ดลับเลือกใช้ แป้งสาลี
ให้เหมาะกับประเภทของขนม

แป้งสาลีไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนผสมที่เป็นองค์ประกอบในเมนูขนมต่าง ๆ แต่ยังเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้ขนมเกิดโครงสร้าง คงรูป และนุ่มฟูอีกด้วย ในแป้งสาลีประกอบไปด้วยโปรตีนหลัก 2 ชนิด ได้แก่ กลูเตนิน (Glutenin) และ ไกลอะดิน (Gliadin) ที่เมื่อเจอน้ำจะรวมตัวกันเป็น กลูเต็น (Gluten) ซึ่งมีความยืดหยุ่น ช่วยกักเก็บก๊าซให้ขนมพองตัวเมื่อโดยความร้อนอีกด้วย

เคล็ดลับการเลือกใช้แป้งสาลีให้เหมาะกับประเภทของขนมกัน

ประเภทของข้าวสาลี

แป้งสาลีที่นำมาใช้ในการทำแป้ง แบ่ง ออกเป็น 2 ประเภท

  1. ข้าวสาลีพันธุ์หนัก (Hard Wheat)
    ให้แป้งที่มีโปรตีนสูง เหมาะกับขนมที่ต้องการความเหนียวและยืดหยุ่น เช่น ขนมปัง พิซซ่า เดนิช เพราะทนต่อการนวดและหมักได้ดี
  2. ข้าวสาลีพันธุ์เบา (Soft Wheat)
    ให้แป้งที่มีโปรตีนต่ำ เนื้อแป้งเบาและละเอียด ใช้ทำเค้ก คุกกี้ หรือขนมที่ต้องการเนื้อสัมผัสนุ่ม ไม่แข็งกระด้าง

ความแตกต่างและการเลือกใช้ แป้งสาลี แต่ละชนิด

แป้งสาลีมีหลากหลายชนิดให้เลือกใช้ตามประเภทของขนมที่ต้องการทำ โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติต่างกันตามปริมาณโปรตีนที่ที่อยู่ในแป้ง ดังนั้นในการเลือกใช้แป้งสาลีให้ถูกประเภทก็มีส่วนทำให้เนื้อสัมผัสของขนมแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทของแป้งสาลีออกได้เป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

#แป้งสาลีชนิดพิเศษ
แป้งชนิดนี้ จัดเป็นแป้งชนิดพิเศษ โม่จากข้าวสาลีที่มีคุณภาพสูงด้วยกรรมวิธีพิเศษ เนื้อแป้งของแป้งสาลีชนิดพิเศษนี้จะมีสีขาว เนื่องจากผ่านการฟอกสีแล้ว มีปริมาณโปรตีนหรือกลูเต็นอยู่ที่ 8% – 8.5% มีความเหนียวน้อย เหมาะกับการทำซาลาเปา สปองจ์เค้กและแยมโร บิสกิต คุกกี้ ปุยฝ้าย ขนมไข่ เค้กต่าง ๆ หรือขนมที่ต้องการให้มีสีขาวนวลเป็นพิเศษ

#แป้งสาลีสำหรับทำเค้ก (Cake Flour)
แป้งสาลีชนิดนี้เป็นแป้งสาลีชนิดเบา มีปริมาณโปรตีนหรือกลูเต็น เท่า ๆ กันหรือพอ ๆ กัน กับแป้งสาลีชนิดพิเศษ คืออยู่ที่ประมาณ 8% – 8.3% เนื้อแป้งจะมีสีขาวออกเหลืองนวล ๆ สามารถดูดซึมน้ำได้ดี เหมาะกับการทำขนมที่มีน้ำตาลในสูตรสูงหรือใช้ไข่มันในปริมาณมาก เช่น บัตเตอร์เค้ก ชิฟฟ่อน สปันจ์ เป็นต้น

เคล็ดลับการเลือกใช้แป้งสาลีให้เหมาะกับประเภทของขนม

#แป้งสาลีอเนกประสงค์ (All Purpose Flour)
เป็นแป้งสาลีที่ทำมาจากข้าวสาลีชนิดหนักและเบาผสมกัน ทำให้มีโปรตีนหรือกลูเต็น อยู่ในระดับปานกลาง ก็คือประมาณ 10 – 11% จึงเป็นแป้งที่ได้รับความนิยมนำไปทำขนมหรืออาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเบเกอรี่ หรือขนมไทย รวมไปถึงอาหารคาว มีราคาไม่สูงมากถ้าเทียบกับแป้งสาลีชนิดอื่น ๆ

สำหรับเค้กบางชนิดที่ต้องการให้เนื้อเค้กแน่น เช่น เค้กผลไม้ ก็จะใช้แป้งอเนกประสงค์ในส่วนผสมเนื้อเค้กแทนแป้งเค้กได้ เพราะโครงสร้างที่แข็งแรงของแป้งสาลีอเนกประสงค์จะช่วยพยุงน้ำหนักของผลไม้ให้ให้ไม่จมอยู่ที่ก้นเค้ก

#แป้งสาลีสำหรับทำขนมปัง (Bread Flour)
เป็นแป้งที่มีปริมาณโปรตีนมากที่สุดในบรรดาแป้งที่เรานิยมใช้ทำขนมกัน เพราะมีโปรตีนหรือกลูเต็นสูงถึง 13.5% – 14% เนื้อแป้งจะมีสีขาวนวล ๆ หรือสีครีม และจะแข็ง ๆ หน่อย

แป้งชนิดนี้ เมื่อเวลาเราต้องการทำให้ขึ้นฟู เราจะต้องใช้ยีสต์ หรือแป้งเชื้อ (ไม่สามารถใช้ผงฟู หรือ เบคกิ้งโซดาได้) จึงเหมาะสำหรับการทำขนมปัง พิซซ่า เดนนิสเพสตรี้ ปาท่องโก๋

Tips : ปริมาณโปรตีนในแป้ง หรือที่เรียกว่ากลูเต็น (Gluten) จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ขนมของเรามีความเหนียวและนุ่ม เช่น เราต้องการทำขนมปังซึ่งมีทั้งความนุ่มและความเหนียวสูง เราก็จะใช้แป้งที่มีปริมาณกลูเต็นมาก ๆ ค่ะ

การเลือกแป้งสาลีให้ถูกต้องตามประเภทของขนมคือหัวใจสำคัญ เพราะแป้งแต่ละชนิดมีปริมาณโปรตีนไม่เท่ากัน ส่งผลต่อเนื้อสัมผัสและโครงสร้างขนมโดยตรง ลองสังเกตฉลากแป้งก่อนเลือกซื้อด้วยนะคะ

📌 ติดตามข่าวสารธุรกิจร้านอาหาร
Facebook : Torpenguin
Instargram : torpenguin
TikTok : torpenguin
Youtube : Torpenguin

📌 อ่านบทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจต่อ